แมวอเมริกันช็อตแฮร์ สุดน่ารัก
แมวอเมริกันช็อตแฮร์ จากการอพยพย้ายถิ่นฐานเข้ามาในสหรัฐอเมริกาพร้อมกับนำน้อง แมวอเมริกันช็อตแฮร์ ขึ้นมาบนเรือด้วย ตอนอยู่บนเรือน้องทำหน้าที่จับหนู เมื่อขึ้นมาอยู่บนฝั่ง ผู้คนเหล่านั้นก็เริ่มตั้งถิ่นฐานที่เมืองเจมส์ทาวน์ ในรัฐเวอร์จิเนียร์ ส่วนน้องก็มีหน้าที่กำจัดหนูและนกที่อยู่ตามบ้านเรือนหรือฟาร์ม บางคนก็ไปที่ดินแดนใหม่พร้อมนำน้องแมวไปด้วย ในปี ค.ศ. 1895 แมวอเมริกัน ช็อตแฮร์ ได้เข้าร่วมเปิดตัวในงานโชว์แมวของประเทศสหรัฐอเมริกา เหล่าบรรดาผู้คลั่งไคล้แมวกำหนดให้น้องแมวเหล่านี้เป็นหนึ่งในแมวสายพันธุ์แท้ในปี ค.ศ. 1906 โดยเริ่มแรกจากที่รู้จักกันในนาม Domestic shorthair จนสุดท้ายในปี ค.ศ. 1966 จึงได้ถูกขึ้นทะเบียนเป็นสายพันธุ์ แมวอเมริกันช็อตแฮร์ ซึ่งเป็นที่รู้จักมาจนถึงปัจจุบัน ปัจจุบันน้องได้รับความนิยมเป็นอันดับที่ 8 จากการจัดอันดับของ Cat Fanciers Association ลักษณะทางกายภาพ – น้ำหนัก: 2 – 6 กิโลกรัม – ความสูง: 20 – 25 เซนติเมตร – ขน: ขนสั้น หนาและแน่น – สีขน: มีสีและลายกว่า 80 […]
แมวเปอร์เซีย ราชินีแมวที่ใครๆ ก็รู้จัก
แมวเปอร์เซีย เป็นแมวที่ถือกำเนิดในดินแดนตะวันออกกลางแถบเปอร์เซีย หรือในประเทศที่หลายคนรู้จักกันนั่นก็คือ ประเทศอิหร่าน และประเทศตุรกีซึ่งเชื่อว่าแมวสายพันธุ์นี้เป็นลูกหลานของแมวป่าอเมริกา (African wildcat) แต่ยังไม่ได้รับการยืนยันอย่างแน่ชัด ต่อมาเจ้าแมวเปอร์เซียได้ถูกนำเข้ามาเลี้ยงในทวีปยุโรปโดยการนำเข้าของประเทศอิตาลี จากการบันทึกหลักฐานของบรรพบุรุษ และกลายเป็นสายพันธุ์ที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากจึงถูกนำพันธุ์ไปขายต่อในประเทศสหรัฐอเมริกาในช่วงปีค.ศ.1900 ซึ่งได้รับการตั้งชื่อตามถิ่นกำเนิด นั่นก็คือ “Persian Cat” มาจนถึงปัจจุบัน ที่มา https://pixabay.com/th/ ลักษณะทางสายพันธุ์ เป็นสายพันธุ์ที่มีโครงสร้างของลำตัวตั้งแต่ขนาดกลางไปจนถึงขนาดใหญ่ซึ่งมีน้ำหนักเฉลี่ยอยู่ที่ 13-15 กิโลกรัม จึงค่อนข้างมีกระดูกที่ใหญ่หนา และแข็งแรง จุดที่สังเกตเห็นได้ชัดคือ หัวค่อนข้างกลม ตาโต หน้าผากโหนก แก้มเต็ม แก้มเยอะ และจมูกหัก โดยมีขนาดลำตัวยาวประมาณ 14 – 18 นิ้ว หางสั้นตรง ขนยาวสวยดุจเส้นไหมซึ่งเป็นที่ชื่นชอบ และหลงใหลในเหล่าบรรดาคนรักแมวเป็นอย่างมาก หากแบ่งตามลักษณะสายพันธุ์จะพบว่าสามารถแบ่งออกเป็น 7 ชนิด 1. Himalayan เป็นสายพันธุ์ผสมระหว่างแมวสายพันธุ์ไทย ระหว่างวิเชียรมาสกับเปอร์เซีย ซึ่งจะมีจุดตำแหน่งเดียวกับวิเชียรมาส แต่ให้ขนยาวสวยเช่นเดียวกับเปอร์เซีย จุดเด่นที่สำคัญอีกอย่างคือลักษณะดวงตาที่ออกโทนสีฟ้า หรือน้ำเงิน 2. Solid colour เป็นแมวที่มีสีขนสีเดียวตลอดทั้งตัวซึ่งไม่มีตำหนิ หรือไล่เฉดสีไม่ว่าจะเป็นสีขาวบริสุทธิ์ […]
แมวเบงกอล แมวลายเสือราคาสูง
แมวเบงกอล ต้นกำเนิดจากชาวอเมริกันชื่อ จีน มิล อยากได้แมวที่ไม่เหมือนใครจึงได้ไปทำการซื้อแมวดาวมาจากร้านขายสัตว์เลี้ยงในอเมริกา (สมัยนั้นการขายแมวดาวไม่ผิดกฏหมาย) หลายปีหลังจากนั้น มิล สังเกตุเห็นว่าแมวดาวของรู้สึกเหงาเธอจึงรับแมวบ้านตัวผู้มาตัวนึงเพื่อเป็นเพื่อนแมวดาวของเธอ หลังนานไม่นานโดยไม่ตั้งใจแมวดาวก็ตั้งท้องและคลอดลูกซึ่งมีเพียงตัวเดียวเท่านั้นที่รอดชีวิตเธอตั้งชื่อว่า คิน-คิน มิลล์ทำการติดต่อวิทยาลัยสัตวแพทยศาสตร์มหาวิทยาลัยคอร์เนลล์ในเมืองอีทาการัฐนิวยอร์กเพื่อขอคำแนะนำเกี่ยวกับวิธีการดูแลแมวลูกผสมตัวนี้และได้รับการแจ้งว่า คิน-คิน อาจเป็นหมัน แต่ไม่เป็นอย่างนั้น เพราะไม่นาน คิน-คินก็ตั้งท้องกับแมวบ้าน และออกมาเป็นแมวที่มีลักษณะคล้ายแมวดาว ในช่วงนั้นแมวดาวเริ่มกลายเป็นสัตว์ต้องห้ามในการซื้อขายและครอบครอง มิลล์ จึงได้ตัดสินใจว่าจะเพาะพันธุ์แมวพันธุ์ผสมของเธอเพื่อเติมเต็มความต้องการของชาวอเมริกันที่ยังต้องการสิ่งมาเต็มความกระหายที่จะเลี้ยงแมวดาว แต่นั่นก็ไม่ใช่เรื่องง่ายนัก เพราะในช่วงแรกแมวผสมนี้ยังมีลักษณะนิสัยของแมวป่าที่คาดเดาไม่ได้ค่อนข้างมาก แต่ในที่สุดหลังจากผ่านไปหลายรุ่น แมวพันธุ์ผสมเหล่านั้นก็ปราศจากนิสัยของแมวป่าและกลายเป็นแมวบ้านไปโดยสมบูรณ์ และขึ้นทะเบียนกับ CFA เป็นแมวเบงกอลดังเช่นที่เราเห็นกันในทุกวันนี้ ลักษณะภายนอกจะมีลายจุดตามตัวเปรียบเสมือนลายของเสือ มีโครงสร้างของร่างกายที่สวยงาม ดูแข็งแรงเหมือนเสือ หลายๆคนขนานนามว่าเป็นแมวป่า แต่ก็มีนิสัยที่ขี้อ้อนเหมือนกับแมวทั่วไป และในบ้านเราก็มีการเพาะเลี้ยง แมวเบงกอลและประสบผลสำเร็จอยู่ไม่น้อย สำหรับราคาแมวเบงกอล มีราคาอยู่ที่ประมาณ 10,000-160,000 บาท ขึ้นอยู่กับสุขภาพและสีขนรวมถึงปัจจัยอื่นๆ และความพอใจของผู้ขายด้วย ที่มา https://pixabay.com/th/ ลักษณะโดยทั่วไป เป็นแมวขนาดกลางถึงตัวใหญ่ มีกล้ามเนื้อใหญ่ หัวกลม หูกว้างใหญ่และเป็นทรงโค้งไม่แหลม ผิวสีและลายขน มีทั้งแบบจุด แบบลายเสือดาว และเป็นทางขวางเป็นลายเสื้อพาดกลอน หรือลายหินอ่อน ตากลมโต มีทั้งสีอัลมอนด์ […]
แนะนำ กระบะทรายแมว คุณภาพดี ราคาประหยัด
กระบะทรายแมว โดยทั่วไปแล้วแมวถือเป็นสัตว์สะอาดและมีระเบียบวินัย ยิ่งถ้าเป็นเรื่องฉี่หรืออุจจาระด้วยแล้ว เรายิ่งจำเป็นต้องให้ความสำคัญกับห้องน้ำของแมวให้มากขึ้น ซึ่งห้องน้ำแมวที่เรากำลังพูดถึงอยู่นี้นั้นก็คือกระบะทรายแมว ผลิตภัณฑ์ที่คิดค้นมาเพื่อน้องแมวโดยเฉพาะ นอกจากนี้การที่เราให้น้องแมวฉี่และอุจจาระเป็นที่เป็นทาง จะช่วยลดปัญหากลิ่นเหม็นและช่วยสร้างวินัยให้กับน้องแมวได้เป็นอย่างดี ว่าแล้วเราก็ตามไปดูกระบะทรายแมวที่เราเตรียมมาในวันนี้กันเลยค่ะ 7 อันดับ กระบะทรายแมว ดีไซน์เก๋ พกพาได้สะดวก 1. Catit รุ่น Smartsift มาตามกระแสกันหน่อยกับห้องน้ำแมวหรือ กระบะทรายแมว รุ่นประหยัดพลังงาน ที่เราอยากให้ทุกคนได้รู้จักกันนั้นก็คือ Catit Smartsift ห้องน้ำแมวสุดเก๋ที่ใช้เพียงแค่คันโยกก็ทำความสะอาดสิ่งสกปรกที่อยู่ภายในทรายแมวได้อย่างทันใจ แถมดีไซน์ของห้องน้ำแมวรุ่นนี้ก็มีขนาดที่ใหญ่โตมากๆ ภายในมีกระบะแมวอยู่ทั้งหมดสองชั้น โดยชั้นบนจะเป็นถาดสำหรับใส่ทรายแมว เมื่อน้องแมวอุจจาระเสร็จแล้วก็ใช้คันโยกให้ถาดชั้นบนถ่ายของเสียลงมาที่ชั้นล่าง จากนั้นก็เลื่อนถาดชั้นล่างออกมามัดปากถุงให้เรียบร้อย ต้องยอมรับว่าจุดเด่นของตัวนี้มีฝาคอบพร้อมกับแผ่นกรองคาร์บอนมาให้ด้วย จึงช่วยดับกลิ่นเหม็นฉุนของอุจจาระและฉี่แมวได้เป็นอย่างดี เรียกว่าเป็นห้องน้ำแมวที่ช่วยให้เราประหยัดเวลาได้เยอะเลยทีเดียว ที่สำคัญราคาของห้องน้ำแมว Catit Smartsift ก็ไม่ได้แพงอย่างที่คิดนะคะ หากบ้านไหนอยากลดเวลาในการทำความสะอาดอุจจาระแมวด้วยแล้ว กระบะทรายแมวตัวนี้ยิ่งตอบโจทย์เลยล่ะค่ะ 2. Unicharm Pet ห้องน้ำแมวยอดนิยมในญี่ปุ่นรุ่น Unicharm Pet เป็นห้องน้ำแมวที่มาพร้อมกับดีไซน์ทรงโดมกึ่งสี่เหลี่ยม ภายในกระบะแมวมีถาด 2 ชั้น มาพร้อมกับแผ่นซึมซับของเหลวคุณภาพดี เมื่อน้องแมวฉี่ลงบนทรายแมวก็จะไม่จับตัวเป็นก้อน ซึ่งของเหลวก็จะไหลลงไปยังแผ่นซึมซับได้อย่างมีประสิทธิภาพมากๆ อีกทั้งภายในแผ่นซึมซับยังมีสารแอนตี้แบคทีเรียที่ช่วยดูดซับกลิ่นได้เป็นอย่างดี […]
แนะนำ 6 อันดับ กรงแมว คุณภาพดี แข็งแรงทนทาน
กรงแมว สำหรับบ้านไหนที่น้องแมวน้องแมวชอบหนีออกจากบ้านอยู่เป็นประจำจนบางทีก็ยากที่จะออกตามหา ซึ่งปัญหาเหล่านี้ก็เป็นเรื่องที่กวนใจทาสแมวอยู่ไม่น้อย แต่ในเมื่อเราไม่สามารถดัดนิสัยซุกซนของน้องแมวได้ เราก็จำเป็นต้องกักขังน้องแมวเอาไว้ในกรงแมว เพื่อความปลอดภัยและดัดนิสัยของน้องแมวไปในตัว แต่การเลือกกรงแมวให้ถูกต้องนั้นเราควรกะขนาดให้ใหญ่กว่าตัวน้องแมวสักหน่อย เผื่อว่าน้องแมวจะได้ยืดเหยียดตัวหรือออกกำลังกายแก้เซ็งแบบเพลินๆ ขอบอกเลยว่ากรงแมวที่เราเตรียมมาให้ในวันนี้ เป็นกรงแมวที่มีคุณภาพดีมากๆ แถมยังมีบันไดไว้ให้น้องแมววิ่งเล่นแก้เบื่ออีกด้วยนะ งั้นเราตามไปดูกรงแมวเหล่านั้นกันเลยดีกว่าค่ะ 6 กรงแมว ขนาดใหญ่ บ้านไหนมีน้องแมวซุกซนต้องจัด! 1. My Paws กรงแมว รุ่นแรก My Paws เป็นกรงแมว 4 ชั้น ทำมาจากเหล็กคุณภาพดีทั้งกรง มาพร้อมกับถาดรองที่สามารถถอดออกมาทำความสะอาดได้แบบง่ายดาย เสริมด้วยล้อเลื่อน 4 ล้อ ช่วยให้การเคลื่อนย้ายเป็นไปได้อย่างสะดวก ส่วนตัวกรงแมวจะทาสีเคลือบกันสนิม ซึ่งมีความแข็งแรงทนทานและไม่หลุดลอกง่ายๆ โดยดีไซน์ของกรงแมวรุ่นนี้จะมีทั้งขนาดใหญ่และขนาดเล็กให้เราเลือกตามขนาดตัวของน้องแมว หากใครมีน้องแมวจำนวน 2 ตัวก็ควรเลือกเป็นกรงแมวขนาดใหญ่ แต่ถ้ามีน้องแมวเพียงแค่ตัวเดียวก็สามารถอยู่ในกรงเล็กได้เช่นกันค่ะ 2. Cat Cage หากน้องแมวชอบออกไปเที่ยวเล่นข้างนอก กรงแมวรุ่นนี้ก็จัดเป็นอีกตัวเลือกหนึ่งที่ควรลองเช่นกันค่ะ เนื่องจากกรงแมวรุ่นนี้จะมีขนาดที่ค่อนข้างกว้าง สามารถรองรับน้องแมวได้หลายตัว ภายในกรงแมวจะมีทั้งหมด 3 ชั้นด้วยกัน โดยฐานรองรับน้ำหนักจะอยู่ที่ 30 กก. […]
แมวไม่ควรกินอะไร ? อาหารต้องห้ามของน้องแมว
แมวไม่ควรกินอะไร เมื่อพูดถึงอาหารการกินของน้องแมว หลายๆ คนอาจคิดว่าน้องแมวก็สามารถกินอาหารคนได้เหมือนกัน แต่รู้ไหมว่าความที่เราไม่รู้นี่แหละ เป็นตัวการสำคัญที่ทำให้น้องแมวเจ็บป่วยถึงขั้นเสียชีวิตได้เลยนะ และยิ่งใครที่เป็นทาสแมวมือใหม่ด้วยแล้ว ต้องยิ่งศึกษาอาหารแมวต้องห้ามแบบด่วนๆ เลยล่ะ แน่นอนว่าวันนี้เราได้รวบรวมของกินใกล้ตัวของมนุษย์ที่น้องแมวไม่สามารถกินได้มาฝากกัน หากใครไม่รู้ว่าแมวไม่ควรกินอะไร ต้องลองอ่านกันดูค่ะ 10 อย่างที่เจ้าของแมวควรรู้ว่า แมวไม่ควรกินอะไร 1.ยาพาราเซตามอล ในยามที่น้องแมวเจ็บป่วย หลายๆ คนอาจเลือกแก้ปัญหาเฉพาะหน้าด้วยการให้น้องแมวกินยาพาราเซตามอลแทน แต่รู้ไหมว่ายาพาราเซตามอลถือเป็นยาที่ร้ายแรงที่สุดสำหรับน้องแมวเลยก็ว่าได้ เนื่องจากในยาพาราเซตามอลนั้นมีส่วนผสมสำคัญที่ทำให้น้องแมวเกิดภาวะผิดปกติในกระแสเลือดได้ ซึ่งเมื่อเลือดของน้องแมวเป็นพิษก็จะทำให้น้องแมวขาดออกซิเจนไปลำเลียงในร่างกาย เป็นผลให้น้องแมวเสียชีวิตได้ในที่สุด โดยอาการเบื้องต้นของแมวที่กินพาราเซตามอลเข้าไปจะมีอาการหอบ น้ำลายไหล อาเจียน หน้าบวมเท้าบวม และเหงือกเริ่มเปลี่ยนเป็นสีดำคล้ำ ซึ่งถ้าเราพาน้องแมวไปหาสัตว์แพทย์ไม่ทัน ฤทธิ์ของพาราเซตามอลนี้จะเข้าไปทำลายระบบหมุนเวียนในร่างกาย และส่งผลให้เสียชีวิตใน 48 ชั่วโมง 2. หัวหอมและกระเทียม อย่างที่เราทราบกันดีว่ากระเทียมและหัวหอมนั้นเป็นวัตถุดิบที่มีกลิ่นฉุนและส่งผลให้เราแสบตาจนน้ำตาไหล เนื่องจากในหัวหอมและกระเทียมนั้นมีสารที่ชื่อว่าสารซัลเฟอร์ ซึ่งเป็นตัวการสำคัญที่ทำให้เซลล์เม็ดเลือดแดงในร่างกายของแมวแตกตัวออกจากกันได้ ทั้งยังส่งผลให้น้องแมวเกิดภาวะโลหิตจางและโรคกระเพาะอาหารตามมาอีกด้วย ถ้าใครไม่รู้ว่าแมวไม่ควรกินอะไร ก็อย่าได้สรรหาอาหารแปลกๆ ไปให้น้องแมวกินเลยนะคะ 3.องุ่น และลูกเกด แม้ว่าลูกเกดและองุ่นลูกเล็กๆ ที่เราเห็นอยู่นี้จะเป็นผลไม้ที่มีสีสันน่ารับประทาน แต่หากให้น้องแมวกินองุ่นและลูกเกดนี้เข้าไป อาจส่งผลให้น้องแมวอาเจียนและเกิดภาวะคลื่นไส้อย่างรุนแรงขึ้นได้ ซ้ำยังก่อให้เกิดภาวะไตวายเฉียบพลันได้แบบทันที หากใครที่รักแมวและไม่อยากให้แมวเป็นอันตรายก็อย่าได้นำองุ่นและลูกเกดให้กับน้องแมวเด็ดขาด 4.ช็อกโกแลต ช็อกโกแลตถือเป็นขนมหวานทานเล่นของใครหลายๆ […]